วิธีจัดคัปปิ้งกาแฟที่บ้าน
Coffee Cupping, How to Cupping, Coffee How to
อยู่บ้านท่าน อย่านิ่งดูดาย รีบเข้าห้องไป Cupping กาแฟ 😁
ช่วงนี้งาน Cupping ต่าง ๆ เริ่มกลับมาจัดกันแล้ว เพราะ SCA เองก็มีมาตรฐานใหม่สำหรับการ Cupping แบบ New Normal เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงการระบาดของ Covid-19 🦠
แต่อะไรจะปลอดภัยไปกว่าการ Cupping ที่บ้านเราเองเล่า 🤣 หลายคนคงสงสัย... Cupping ที่บ้าน ทำไปทำไม...? คำตอบคือ ทำเพื่อฝึกฝนความสามารถในการรับกลิ่นรส(Sensory Skill) และเป็นการเอาสต๊อกกาแฟเหลือ ๆ ของเรามาใช้ให้มีประโยชน์ด้วยครับ 😆 (เชื่อว่าหลายบ้านมีกาแฟเหลือทานไม่ทันกันเยอะ ผมก็เป็นครับ🤣)
❓แล้วการ Cupping มันจะช่วยให้ความสามารถในการรับกลิ่นรสดีขึ้นได้ยังไง?
🅰️เพราะมันเป็นวิธีที่เราจะชิมกาแฟพร้อม ๆ กันได้หลายตัวครับ 😁
เอาเป็นว่า ถ้าเราไม่ได้มีความสามารถที่จะดริปกาแฟพร้อม ๆ กัน 3 - 4 ดริปเปอร์ ด้วยการเทน้ำที่เท่ากันเป๊ะ ๆ เหมือนที่บรรดาแชมป์🥇 Brewer Cup เค้าทำกัน Cupping เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้เราชิมกาแฟหลาย ๆ ตัวที่ Brew ด้วย Condition เดียวกันได้พร้อม ๆ กันครับ
นอกจากการฝึกฝนการรับรู้กลิ่นรสแล้ว การ Cupping ยังเป็นวิธีที่ดีที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของกาแฟตัวนั้น ๆ ด้วย เพราะมันเป็นวิธีที่เปรียบเทียบรสชาติกาแฟตรง ๆ โดยไม่ต้องสงสัยว่ากาแฟโน้นนี้กลิ่นไม่ออกเพราะเราดริปห่วยเองรึเปล่า?
วันนี้ ZMITH จะมานำเสนอวิธีการจัด Cupping Session ง่าย ๆ (รึเปล่า🤔) ด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วตามบ้านกันครับ
อุปกรณ์สำหรับการ Cupping
🔹แก้ว ☕️ หรือถ้วย ขนาด 150 หรือ 200 ml x จำนวนกาแฟที่ต้องการจะชิม
🔹ฝาปิดแก้ว (จะใช้อะไรก็ได้ สำหรับปิดไม่ให้กลิ่นกาแฟหนีออกไปก่อนเทน้ำ)
🔹ตราชั่ง (ใครดริปกาแฟก็มีอยู่แล้วเนอะ ☺️)
🔹เครื่องบดกาแฟ (อันนี้ยิ่งต้องมี 😁)
🔹ช้อน🥄 x 2 คัน (จะใช้ช้อนสำหรับ Cupping หรือช้อนซุปอื่น ๆ ก็ได้)
🔹กาต้มน้ำ
🔹นาฬิกาจับเวลา
🔹กระดาษ ปากกา สำหรับโน้ต (สำหรับสายจด)
ขั้นตอนการ Cupping
1️⃣ ชั่งเมล็ดกาแฟ(ยังไม่บด)ใส่ในถ้วย Cupping ในอัตราส่วน [กาแฟ 8.25g : น้ำ 150ml] หรือ [กาแฟ 11g : น้ำ 200ml]
2️⃣ บดกาแฟประมาณ Medium-Coarse หรือหยาบกว่าบด Filter เล็กน้อย ประมาณเม็ดน้ำตาลทรายแดง ใส่ลงในถ้วยเดิม
3️⃣ 👃🏻ดมกลิ่นผงกาแฟ (อย่าสูดแรง เดี๋ยวผงเข้าจมูก🤧) การดมสลับไปมาระหว่างถ้วยจะทำให้เราจับความแตกต่างของกลิ่นได้ง่ายขึ้น ดมเท่าที่ต้องการแต่อย่าเกิน 15 นาทีหลังบด (ถ้าเป็นไปได้ใช้ฝาปิดถ้วยไว้ก่อนดม) ขั้นตอนนี้เราเรียกว่าการดม Dry หรือ ผงกาแฟแห้ง
4️⃣ เทน้ำร้อนอุณหภูมิ 93 องศา C ลงไป (สำหรับกาแฟ 8.25g = 150ml / กาแฟ 11g = 200 ml) พยายามให้ผงกาแฟเปียกให้ทั่ว จากนั้นทิ้งไว้ 4 นาที(จับเวลา) ในระหว่าง 4 นาทีนี้จะเอาไว้สำหรับดมกลิ่น aroma หอมหวานจำพวกน้ำตาลต่างๆ
5️⃣ พอครบ 4 นาที นำช้อนที่เตรียมไว้ทำการคนเพื่อเปิดผิวหน้า(ผงกาแฟที่ลอยอยู่ด้านบน)ของกาแฟโดยการวนช้อนตามเข็มนาฬิกา 3 ครั้ง แล้วดมกลิ่นที่ลอยขึ้นมา ตรงนี้กลิ่นที่เขียนไว้ใน Taste Note จะเริ่มออกมา เช่น โทนผลไม้ ดอกไม้ น้ำตาล ถั่ว เป็นต้น ขั้นตอนนี้เรียกว่าการ Break ผิวหน้ากาแฟ
*ในขั้นตอนการวนช้อน ให้วนบริเวณผิวด้านบนเท่านั้น เราจะไม่เอาช้อนลงไปคนเอาผงกาแฟที่จมอยู่ด้านล่างขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ Over Extraction
6️⃣ ใช้ช้อนตักผงกาแฟที่ลอยอยู่ที่ผิวหน้าออก โดยการใช้ช้อน 2 คันค่อยๆ ช้อนผงกาแฟที่ลอยอยู่ออกให้หมด เพื่อให้ผิวหน้ากาแฟสะอาดหมดจดพร้อมชิม (ไม่แนะนำให้กินผงกาแฟนะครับ 🤣) ขั้นตอนนี้เรียกว่าการ Skimming
7️⃣ รอให้เวลาผ่านไปประมาน 8-10 นาที ( 8 นาทีสำหรับแก้วปากกว้าง 10 นาทีสำหรับแก้วทรงสูง)นับจากเริ่มเทน้ำ กาแฟจะเริ่มเย็นตัวลง(อุณหภูมิประมาณ 71C) เริ่มชิมได้... แต่ เบาได้เบา... ระวังกาแฟลวกปาก!!! ชิมกาแฟจากช้อนโดยการ “สูด” กาแฟเข้าปากพร้อมอากาศ (เรียกว่าการ Slurp) เพื่อให้กาแฟฟุ้งกระจายทั่วปากทำให้เราสามารถรับกลิ่นและรสได้ดีขึ้น ช่วงนี้เราจะได้ Flavor & Aftertaste
8️⃣ เมื่ออุณหภูมิลดลงไปประมาณ 60 องศา (เร็วช้าแล้วแต่อุณภูมิห้อง) จะเป็นการชิมเพื่อ Acidity, Body, Balance กาแฟที่ดีจะกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวโดด หรือถึงเปรี้ยวก็มีความหวานร่วมด้วยเหมือนส้มตำไทย นั่นแหละแจ่ม 😁
9️⃣ พอกาแฟเย็นลง (อุณหภูมิต่ำกว่า 37C) ก็ชิมอีกรอบ เพื่อเมคชัวร์ว่ากาแฟนั้นดีตั้งแต่ต้นจนจบรึเปล่า ช่วงที่กาแฟเย็นลงเราจะรับรู้รสชาติได้ชัด ลองชิมดูว่ากาแฟแก้วนั้นๆมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมาบ้างมั้ย จำพวกกลิ่นเขียว กลิ่นหืน
⏹ เมื่ออุณหภูมิแตะที่ 21 องศา(ซึ่งปกติจะไม่ถึงหรอก ยกเว้นจะไปนั่ง Cup กันในตู้เย็น หรือแอร์แรงมาก 😂) ก็เป็นอันจบพิธีการ cupping ได้ ถ้า Cupping กันหลายคนก็เริ่มพูดคุยกันได้ (ก่อนหน้านั้นควรใส่ Poker Face หน้านิ่งเอาไว้ เพื่อป้องกัน Bias)
Conclusion
สรุป
จริง ๆ แล้วการ Cupping ตามมาตรฐานของ SCA นั้นมีข้อบังคับละเอียดยิบย่อยกว่านี้อีกมากมาย เช่นขนาดรูปร่างของโต๊ะ กาแฟตัวนึงต้อง Cup กัน 5 แก้ว ขนาดผงกาแฟต้องผ่าน Mesh เบอร์ 20 70-75% และอื่น ๆ อีกมากมาย
ถามว่าทำไมต้องละเอียดขนาดนั้น คำตอบก็คือการ Cupping ของ Q Grader นั้นคือการตัดสินคุณภาพผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งการผ่าน หรือไม่ผ่าน 80 คะแนนนั้น เท่ากับรายได้ที่ต่างกัน 5 - 10 เท่าตัว (หรือมากกว่านั้น) ซึ่งกำหนดคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้เลยทีเดียว
ส่วนเรา ๆ นั้นถ้า Cupping เพื่อความสนุกสนาน และฝึกฝนก็ไม่ต้องซีเรียสกับกฎมากมาย เอาเป็นว่า ทำแล้วสนุก ได้ความรู้ และเพิ่มทักษะ ก็โอเคแล้วครับ
ขอให้สนุกกับการ Cupping กาแฟครับ 😊
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง Cupping ได้ตามด้านล่างเลยครับ😊
Comments